Deep Dive Dynamic Line
Last updated
Last updated
🔺 เส้นบน (Upper Line)
กำแพงบนของ Momentum Zone
แนวต้าน/จุด Take Profit
ราคาสัมผัส = Overbought Zone, อาจมีแรงขาย
📊 เส้นกลาง (Mid Line)
เส้นแกนพลังงานแนวโน้ม
แนวโน้มหลัก (Main Trend Axis)
ราคายืนเหนือ = ขาขึ้นแข็งแรง / หลุด = อ่อนแรง
🔻 เส้นล่าง (Lower Line)
พื้นพลังงานเทรนด์
แนวรับ/จุด Buy Zone
ราคาชน = Zone Big Buy / หลุด = เทรนด์พัง
กล่องความแข็งแรงของเทรนด์ (Trend Strength Box) → หากราคา “ลอยอยู่ในกล่อง” = เทรนด์ยังอยู่ในภาวะสมดุล → หาก “ทะลุออกบน/ล่าง” = บ่งชี้การ Breakout หรือ Trend Shift
โซนที่ Strategic Footprint (Smart Money) ใช้วางออเดอร์
ด้านล่าง = Zone วาง Buy (สะสม Long)
ด้านบน = Zone วาง Sell (Take Profit / วาง Short)
อุโมงค์ส่งแรงเทรนด์ (เหมือนท่อพลังงาน)
หากราคา “ไหลในอุโมงค์” → เทรนด์แข็งแรง
หาก “ทะลุอุโมงค์” → ต้องระวัง Fakeout หรือ Reversal
🎯 Buy on Support
เส้นล่าง + เส้นกลาง
หากราคากลับตัวจากเส้นล่าง + ยืนเหนือเส้นกลาง = Buy
🧠 Trend Following
เส้นกลาง เป็นแกนหลัก
เทรดตามเทรนด์เมื่อราคาอยู่เหนือเส้นกลางและไม่หลุดเส้นล่าง
📈 Breakout Confirmation
เส้นบน
ราคาทะลุเส้นบน + Volume สูง = Confirm Buy Breakout
🛡️ Risk Control
ทั้ง 3 เส้น
ใช้เป็นโซน Stop Loss / Take Profit อย่างแม่นยำ
เป็นระบบที่ผสานแนวรับ-แนวต้านเชิงกลยุทธ์ + พลังงานของแนวโน้ม + จุดสะสมออเดอร์ เพื่อให้คุณเทรดเหมือนสถาบัน เข้าใจทั้ง “พฤติกรรมราคา” และ “แรงขับเคลื่อนของเทรนด์” อย่างลึกซึ้ง
เส้นกลางที่ปรับตัวเองตามแนวโน้มของราคาแบบอัจฉริยะ (Adaptive Moving Structure) ซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้ง
Trend Tracker (ติดตามทิศทางตลาด)
Momentum Indicator (วัดแรงซื้อ/แรงขาย)
Dynamic Support/Resistance Zone (แนวรับ/ต้านเคลื่อนไหวตามพฤติกรรมราคา)
🧠 "Adaptive"
เส้นปรับองศาเองตามพฤติกรรมราคา
ไม่ Lag แบบ EMA/SMA ทั่วไป
🔄 "Dynamic"
เส้นเคลื่อนไหวอย่างยืดหยุ่นตาม Flow
ใช้กับทุกสภาวะตลาด (Trending / Sideway)
🎚 "Centerline"
เส้นแกนกลางของแรงขับเคลื่อนราคา
เส้นแบ่งเขต Bullish/Bearish
💥 "Signal Trigger"
เมื่อราคาทะลุ/ตัด Dynamic Line
เป็นจุดกลับตัว / เร่งเทรนด์ที่สำคัญ
🧲 "Liquidity Magnet"
ราคามัก “กลับมาทดสอบ” เส้นนี้เสมอ
ใช้เป็นจุด Re-entry / Pullback Buy-Sell
✅ Trend Detection
ถ้าราคาอยู่เหนือเส้น = แนวโน้มขาขึ้น
✅ Momentum Transition
ถ้าเส้นเปลี่ยนสี = Momentum เปลี่ยน
✅ Support/Resistance Zone
เส้นและ Cloud รอบเส้น = แนวรับ/ต้านอัจฉริยะ
✅ Liquidity Flow Reader
เส้นชี้ให้เห็นว่า “แรงซื้อ/ขายจริง” อยู่ตรงไหน
✅ Strategic Footprint Radar
เส้นนี้แสดงการเคลื่อนที่ของ “นักลงทุนเชิงกลยุทธ์” ผ่าน Flow Price
ราคาอยู่เหนือเส้นกลางสีเขียว
เข้า Buy เมื่อ Pullback มาแตะเส้น
เส้นทำตัวเป็น “แนวรับเคลื่อนที่”
ราคาอยู่ใต้เส้นกลางสีแดง
เข้า Sell เมื่อราคาย่อตัวกลับมาใกล้เส้น
เส้นทำตัวเป็น “แนวต้านเคลื่อนที่”
สังเกตจุดเปลี่ยนสีของเส้น = Signal แรกของการกลับเทรนด์
ใช้คู่กับ HH–LL / HL–LH เพื่อยืนยัน
"มันคือเส้นที่รวมพฤติกรรมของราคา, แรงส่ง, และแนวโน้มไว้ในจุดเดียวกัน เพื่อให้เทรดเดอร์รู้ว่า ตอนนี้ตลาดกำลังเปลี่ยนแปลงอะไร? และเราควรตอบสนองอย่างไร"
เส้นบนสุดของโซน Dynamic ที่แสดง “แรงต้านของ Momentum + โซน Overbought แบบ Real-Time” ใช้ตรวจจับ แนวต้านเชิงกลยุทธ์ (Strategic Resistance) และ แรงผลักดันของฝั่งซื้อ ที่ใกล้หมดแรง
🔺 Upper Barrier
ขอบเขตบนของแรงเทรนด์
แสดงโซนที่ราคาจะเริ่มโดนแรงขาย
🔥 Momentum Ceiling
หลังคาแรงขับเคลื่อน
ถ้าราคาทะลุเส้นบน = เทรนด์กำลัง “เร่งแรง”
💢 Strategic Resistance
จุดที่ Smart Money มัก “Sell Into Strength”
บอกจุดที่ต้องระวังแรงเทขายกลับ
📉 Mean Reversion Zone
โซนที่ราคาอาจ “กลับเข้ากลาง”
ใช้เป็นจุด Take Profit หรือรอ Re-entry
📊 Volume Reaction Zone
โซนที่มีแรงกระทำกับราคาเยอะ
เหมาะกับดู Volume/Order Flow ประกอบ
→ บอกว่าแรงซื้อมหาศาล กำลังเข้าสู่ “Acceleration Phase” → มีโอกาสเกิด “Impulse Move” ขึ้นแบบรุนแรง (เทรนด์จะเร็วขึ้น)
→ บอกว่า "แรงซื้อหมด" และมี Strategic Footprint กำลัง Take Profit → เตรียมเกิดการพักตัวหรือกลับตัวระยะสั้น
→ เทรดเดอร์สาย Compound Profit ใช้จุดนี้เป็น Take-Profit Level → หรือ Sell เมื่อมีสัญญาณจาก AI Arrow / HH Failure / Divergence ประกอบ
✅ Histogram Cloud
ถ้า Cloud เริ่มบาง + ราคาชนเส้นบน → สัญญาณอ่อนแรง
✅ StepLine Pro
ถ้า Step เปลี่ยนสีตรงเส้นบน → ยืนยันจุดกลับตัว
✅ Baek Line / Baseline
ถ้าราคากลับลงต่ำกว่า Baek Line หลังชนเส้นบน → Bearish Confirm
✅ Volume Profile / Order Flow
ดูว่ามี Big Order ต้านตรงเส้นบนหรือไม่
"มันคือแนวต้านที่ไม่ตายตัว แต่ปรับเปลี่ยนตาม Momentum และ Liquidity Flow ช่วยให้เรารู้ว่า เทรนด์ยังแข็งแรง หรือเริ่มเหนื่อยแล้ว และเป็นจุดที่ผู้เล่นรายใหญ่เริ่มจัดการสถานะของพวกเขา"
เส้นล่างสุดของโซน Dynamic ที่ทำหน้าที่เป็น ✅ แนวรับของเทรนด์ ✅ โซน Oversold แบบ Adaptive ✅ จุดวาง Buy Limit ของ Strategic Footprint
🔻 Lower Barrier
ขอบล่างของโซนแรงเทรนด์
หากราคายังไม่หลุด = เทรนด์ยังอยู่
💪 Momentum Floor
พื้นแรงส่งของเทรนด์
พื้นสุดท้ายก่อนเทรนด์พัง
🧠 Strategic Demand Zone
พื้นที่ที่ Strategic Footprint รอ “Buy Into Weakness”
โซนที่มักมี Big Orders รอรับ
🔁 Bounce Zone
จุดรีบาวด์ตามพฤติกรรมราคา
บ่อยครั้งเกิด Bullish Pinbar / Engulfing
📊 Liquidity Absorption Area
พื้นที่ที่แรงขายถูก “ดูดกลืน”
บ่งบอกแนวรับที่แข็งแรงระดับ Institution
→ บอกว่ามีการดูดซับแรงขาย (Absorption) → เป็น “โอกาสในการ Long (Buy)” อย่างปลอดภัย
→ เทรนด์ขาขึ้น “พังแล้ว” → อาจเกิดการเปลี่ยนเทรนด์เป็นขาลงเต็มตัว
→ Strategic Footprint ชอบใช้ Dynamic Line เส้นล่างเป็นโซนสะสมสถานะ (Strategic Positioning) → ถ้ามี Volume Spike แสดงว่ากำลัง “เติมของ”
✅ Histogram Cloud
ถ้า Cloud บาง + ราคาชนเส้นล่าง → เตรียมเด้ง
✅ StepLine Pro
หาก Step เปลี่ยนสีหลังชนเส้นล่าง → Bullish Confirmation
✅ Arrow Signal / HL
หากเกิด HL หรือ Arrow Buy บริเวณเส้นล่าง → Entry Zone
✅ Volume Profile / Delta Flow
ดูว่าเกิด Big Buy Order หรือ Positive Delta ที่โซนนี้หรือไม่
"มันคือฐานพลังของเทรนด์ เป็นโซนที่ Smart Money รอเข้าซื้อ และถ้าราคาไม่สามารถทะลุลงไปได้ แปลว่าเทรนด์ยังมีแรง แต่ถ้าทะลุลง = เทรนด์พัง กลับตัวได้ทันที"
Buy on Touch → ตั้ง Pending Buy บนเส้นล่าง (เมื่ออยู่ในขาขึ้น)
Stop Loss Below Line → วาง SL ไว้ล่างสุดของเส้นล่าง + Shadow ล่าสุด
ใช้ร่วมกับ HL / HH Pattern → ถ้า HL เกิดตรงเส้นล่าง = Confirmation Buy
ใช้ดูจุดสะสมใน Strategic Positioning → ถ้าราคา Sideway อยู่ตรงเส้นล่างนาน = Big Players กำลังสะสม